Saturday, May 14, 2011

อย่าอ่านแค่หนังสือที่ดี





อย่าอ่านแค่หนังสือที่ดี
                 จงอ่านสุดยอดของหนังสือ

          หนังสือชุด Great Books of the Western World สามารถหาได้ในห้องสมุดส่วนใหญ่ ในชุดเหล่านี้ประกอบไปด้วยงานเขียนคลาสสิคจาก Aeschylus to Virgil และจากปรัชญาและบทละครของกรีกและโรมันโบราณไปจนถึงวิทยาศาสตร์และวรรณคดีร่วมสมัย ซึ่งกล่าวถึงขุมทรัพย์แห่งขุมทรัพย์ จงดิ่งลึกลงสู่หนังสือเหล่านี้แล้วคุณก็จะได้ซึมซาบอยู่ในอัจฉริยภาพที่ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะพันตูกับหนังสือทั้งชุด ก็ขอให้แน่ใจว่าคุณได้อ่าน The Syntopicon: An Index to the Great Ideas ทั้งสองชุด ต่อจากนั้นค่อยอ่านชีวประวัติของอัจฉริยบุคคลผู้เป็นอมตะในช่วงต้นๆ ของแต่ละชุดจงค้นหาเรื่องราวชีวิตของท่านเหล่านั้นที่คล้ายคลึงกันและค้นหาตัวตนของคุณในชีวิตวัยเยาว์ของพวกเขา หรือช่วงเวลาที่พวกเขากำลังเติบโต ด้วยการทำเช่นนี้คุณจะสามารถปลุกเสียงเรียกจากภายในของคุณให้ตื่นขึ้นเพื่อแสดงออกซึ่งอะไรบางอย่างที่สุดยอด เราแต่ละคนกำลังอยู่บนวิถีทางสู่ความเป็นอมตะ

          นอกเหนือไปจากชุดนี้แล้วก็ยังมีผู้รู้ผู้ยิ่งใหญ่อีกนับเป็นร้อยๆ คนที่ได้ฝากงานเขียนและชีวประวัติของพวกเขาไว้ให้คุณได้ซึมซับ การอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความคิด การคิดค้น การสร้างสรรค์ หรือแม้วิถีชีวิตธรรมดาๆ ของพวกเขา ก็จะช่วยก่อให้เกิดความแตกต่างของทัศนะในการมองโลกของคุณ กระตุ้นความคิดที่ดีเลิศที่ยิ่งใหญ่กว่าให้ผุดขึ้นในดวงจิตของคุณ จะเป็นการโชคดีแค่ไหนถ้าหากเราจะได้รับแนวคิดที่เรียบง่ายซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณอย่างลึกซึ้งตลอดไป ขอให้แน่ใจว่าคุณได้จดแนวคิดใดๆ ที่ขับขานท่วงทำนองขึ้นในหัวใจของคุณ ไม่ว่าแนวคิดพวกนั้นจะมาจากผลงานของท่านผู้รู้โดยตรงหรืออาจจะเกิดจากการกระตุ้นโดยท่านเหล่านั้น เปิดสมุดบันทึกในคอมพิวเตอร์หรือไดอารี่ที่คุณสามารถที่จะจดบันทึกแรงบันดาลใจของคุณได้เดี๋ยวนี้เลย

          จงปล่อยให้วิญญาณของคุณนำพาคุณไปสู่การเรียนรู้เรื่องราวเฉพาะทางด้วยเช่นกัน 
คุณรู้หรือไม่ว่า ถ้าเราอ่านหนังสือเกี่ยวกับสาขาวิชาใดก็ได้วันละ 30 นาทีคุณก็จะกลายเป็นบุคคลแถวหน้าในสาขานั้นในเวลาเพียง 7 ปี ถ้าคุณอุทิศเวลา 1 ชั่วโมงในแต่ละวัน คุณก็จะกลายเป็นผู้นำในสาขาวิชาในเวลา 4 ปี และถ้าคุณใช้เวลาอ่านวันละ 3 ชั่วโมง แน่นอนที่สุดคุณจะกลายเป็นผู้นำแถวหน้าสุดในสาขาวิชานั้นในเวลาปีครึ่งหรือน้อยกว่านั้น

สอนให้หัวใจของคุณขับขาน

            ทุกๆ คนสามารถที่จะรับฟังงานดนตรีชิ้นพิเศษซึ่งสามารถบันดาลให้น้ำตาแห่งปีติสุขความรู้สึกซาบซึ้งใจและความรักไหลออกมาได้ และงานบางชิ้นก็สามารถผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์หรือการกระทำในลักษณะที่ช่วยยกระดับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การได้ฟังออเคสตร้า หรือโอเปร่าที่ยิ่งใหญ่ และการดูการแสดงซิมโฟนีก็จะช่วยให้คุณพริ้วไหวไปกับความซาบซึ้งใจในความงดงามและความลงตัวอันแท้จริงของเสียงดนตรี การผสมผสานของสรรพสำเนียง และการเปล่งเสียงซึ่งปลุกเร้าอารมณ์ความรู้สึกสามารถที่จะช่วยยกระดับความตระหนักรู้ในเสียงเรียกจากวิญญาณภายในตัวคุณเอง การกระเพื่อมไหวที่สอดประสานซึ่งสามารถจะก่อให้เกิดจิตปรารถนาในการสรรค์สร้างอันยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นภายในตัวตนของคุณ

          จงห้อมล้อมตัวคุณด้วยเสียงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ด้วยผลงานคลาสสิคที่คงทนต่อกาลเวลา จงรับฟังเสียงที่บันทึกไว้ แต่ก็ต้องแน่ใจด้วยว่าคุณจะมีโอกาสได้ไปชมการแสดงสด ซึ่งคุณสามารถจะสัมผัสกับความก้องกระหึ่มของเครื่องดนตรีในโสตประสาทของคุณ และรับรู้ถึงความไหวระรัวของเครื่องเคาะจังหวะเข้าไปในเส้นเลือด จงเติมเต็มดวงจิตของคุณด้วยการสั่นสะเทือนอันทรงพลังของเสียงดนตรีที่จะทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์แล้วพาคุณกลับมาสู่พื้นโลกและเกิดความรู้สึกมีกำลังใจ และมีชีวิตชีวามากกว่าที่เคยมีมาก่อน

เขียนโดย Dr John F. Demartini
แปลโดย รศ.ดร.อมร แสงมณี(blogger)


The True power of Love and Gratitude

No comments:

Post a Comment